เด็กใหม่ ซีซั่น 1
ซีรีส์ไทยเรื่อง “เด็กใหม่ ซีซั่น 1” เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้หญิงอาจจะยังไม่กล้าลุกขึ้นมาลงมือทำ บางกรณีก็กลายเป็นเหยื่ออย่างน่าสงสาร เกิดเป็นเด็กใหม่ หรือตัวแทนของพวกเธอทุกคนที่จะไม่ยอมอีกต่อไป โดยที่เรียกเธอว่า “แนนโน๊ะ” ที่ได้เข้ามาเป็นเด็กใหม่ในโรงเรียนที่เกกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยอิงจากข่าวจริงที่เกิดขึ้น เผยเบื้องลึกด้านมืดของหลาย ๆ คนรอบข้างตั้งแต่เพื่อนนักเรียนด้วยกัน รุ่นพี่รุ่นน้อง ไปจนถึงครู ครอบครัวก็มี ซึ่งแต่ละตอนก็จะจบในคราวเดียวเลย ตอนใหม่ก็เป็นความแก้แค้นใหม่เสมอ แต่ละตอนบอกเลยว่าห้ามพลาดอย่างที่สุด
สำหรับซีรีส์ไทย “เด็กใหม่ ซีซั่น 1” ต้องยอมรับว่าเป็นอีกเรื่องที่มีความสะท้อนสังคมในแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างดี มีการใช้เรื่องราวข่าวจริงที่เกิดขึ้นดัดแปลงและทำให้เห็นถึงจุดจบที่แท้จริงยากจะคาดเดา เป็นแนวระทึกขวัญ ดราม่า ที่มีการดำเนินเรื่องรวดเร็ว กระชับ ดูแล้วได้ใจความ จบตอนก็มีตอนใหม่ที่ไม่ได้เชื่อมโยงอะไรกันแต่ทำออกมาน่าติดตามมาก ด้านโปรดักชั่นมีความอลังการมากมีใช้ CG ที่ทำออกมาได้ดีสุด เนียนสมจริง เครื่องแต่งกายก็บ่งบอกเอกลักษณ์ตัวละครได้ดี โทนสีก็จะแตกต่างไปแต่ละตอนที่มี ด้านนักแสดงแต่ละคนโชว์ฝีมือได้ไม่ธรรมดา สื่อสารอารมณ์ ความต้องการต่าง ๆ ออกมาได้อย่างมีธรรมชาติ พาเราคล้อยตามกันสุด ๆ รู้สึกสะใจ สนุกแน่นอน เป็นอีกเรื่องที่ใส่ใจทุกรายละเอียดต้องติดตามกันทุกตอน
เด็กใหม่ ซีซั่น 2
ซีรีส์เรื่อง “เด็กใหม่ ซีซั่น 2” เป็นการกลับอีกครั้งของความแค้นที่มี เป็นการบ่งบอกถึงด้านมืด กิเลสของมนุษย์แต่ละคนที่ซุกซ้อนอยู่แต่จะเป็นทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน โดยที่ “แนนโน๊ะ” กลับมาเป็นผู้ทวงคืนความยุติธรรมแต่ครางนี้ไม่ได้มาคนเดียว ยังมีสาวปริศนาที่ปรากฏอีก 1 คนที่ความลับบางอย่างจะถูกเปิดเผยด้วย และ “แนนโน๊ะ” ก็ต้องเจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ทว่าเรื่องราวและผู้คนที่เจอในแต่ละตอนก็ไม่ได้เชื่อมโยงอะไรกัน เป็น 8 ประเด็นจริงที่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้วบทสรุปแต่ละคน แต่ละตอนจะเป็นอย่างไร “แนนโน๊ะ” จะจัดการลงทัณฑ์แต่ละคนไว้จัดหนักขัดเต็มเหมือนซีซั่น 1 หรือไม่ ก็อย่ารอช้าไปติดตามกันได้เลย
สำหรับเรื่อง ซีรีส์ “เด็กใหม่ ซีซั่น 2” นี้นั้นเป็นการพูดถึง 8 ประเด็นที่มีจริงในสังคมไทยและถ่ายทอดออกมาได้เป็นสไตล์ของซีรีส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินเรื่องมีความรวดเร็ว กระชับ ดูแล้วไม่ได้สับสนมาก อย่างที่บอกแต่ละตอนไม่ได้เชื่อมต่อกันดูแล้วจบเลย เพียงแต่จะมีตัวละครที่มาอยู่ในทุก ๆ ตอนไปด้วย ด้านโปรดักชั่นใช้ CG เข้ามาช่วยเหมือนเดิม แต่คงความเนียนสมจริง และดูเป็นเอกลักษณ์ เครื่องแต่งกายบ่งบอกสถานะ นิสัย ความเป็นตัวละครได้ดี ด้านนักแสดงแต่ละคนสื่อสารอารมณ์ ความต้องการออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ พาเราคล้อยตามความรู้สึกนึกคิดไปด้วยอย่างดี หากได้ดูซีซั่น 1 ไปแล้วเชื่อว่าซีซั่นที่ 2 นี้จะเป็นอีกเรื่องราวที่ตราตรึงใจไม่พลาดแม้แต่ตอนเดียวแน่นอน
